เชื้อราอวัยวะเพศชายมักเกิดขึ้นกับผู้ชาย อาการหลัก ได้แก่ การอักเสบและอาการปวดที่ปลายของอวัยวะเพศชาย คัน แสบ แพทย์รักษาโดยการให้ยาทาต้านเชื้อรา หรือยากินตามการวินิจฉัย นอกจากนี้ผู้ที่มีอาการต้องหมั่นทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศของตนเองให้สะอาดอยู่เสมอ และควรมาตรวจภายในสำหรับผู้ชายที่คลินิกด้วย
เรื่องเชื้อราอวัยวะเพศชายที่ควรรู้
เชื้อราอวัยวะเพศชาย เกิดจาก แคนดิไดอะซิส (Candidiasis) หรือ การติดเชื้อแคนดิดา หรือ โรคติดเชื้อแคนดิดา (Candida infection) แต่ที่พบได้บ่อยเกือบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อราหรือยีสต์จากชนิด Candida albicans
การติดเชื้อราไม่ใช่โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ แต่อาจสัมพันธ์กับพฤติกรรมหลังการร่วมเพศได้ เช่น หลังการมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ทำความสะอาด
เชื้อราอวัยวะเพศชายกับเชื้อราในช่องคลอดคือเชื้อเดียวกัน คือ Candida albicans แต่ในผู้ชายมักจะมาด้วยคันอวัยวะเพศ ไม่มีตกขาว ก็คือติดได้แต่อาการไม่เหมือนกัน
"ดังนั้น ผู้ชายจำเป็นต้องตรวจ |
บทความที่แนะนำสำหรับคุณผู้ชาย : ตรวจภายในผู้ชาย ต้องตรวจอะไรบ้าง? ตรวจได้ที่ไหน?
ถ้าแบคทีเรียก็ติดได้ผ่านการออรัลเซ็กส์ (Oral Sex) กับเพศสัมพันธ์ ส่วนราได้ทั้งการสัมผัส มีเพศสัมพันธ์ และการดูแลความสะอาดที่ไม่เพียงพอก็สามารถเป็นได้
วิธีการรักษาเชื้อราอวัยวะเพศชาย แพทย์จะให้ยาต้านเชื้อรา มีทั้งยาชนิดรับประทานหรือยาทาภายนอก โดยแพทย์จะพิจารณาตามความรุนแรง ร่วมกับแนะนำการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ทำความสะอาดองคชาตเป็นประจำ ด้วยน้ำเปล่าและซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และความเครียด เนื่องจากจะทำลายความสมดุลร่างกาย เชื้อราเพิ่มจำนวนขึ้นได้
แนะนำสวมถุงยางอนามัยระหว่างมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง ควรสวมใส่ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นกิจกรรม ไม่ถอดเข้าออก และควรใช้ถุงยางอันใหม่ทุกรอบ
การขลิบ ช่วยลดสิ่งสกปรกหมักหมมได้
สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่อับชื้น ระบายอากาศดี
รีบอาบน้ำทันที เมื่อกลับถึงบ้าน หรือเมื่อออกไปทำกิจกรรมที่มีเหงื่อ เช่น เล่นกีฬา อยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและอับชื้น
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด หมักดอง และอาหารทะเล
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงสุพรรษา เหนียวบุบผา
แก้ไขล่าสุด : 30/01/2024
