เสียหายอย่างรุนแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่นๆ และมะเร็งหลายชนิด
หากเรามีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การได้รู้ว่าติดเชื้อ HIV แล้วหรือยังเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อที่จะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส
ข้อมูลที่น่าสนใจ
เชื้อ HIV คืออะไร ?
HIV เป็นเชื้อไวรัสที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีภูมิต้านทานที่ต่ำลง หรือได้อีกอย่างนึงว่า “ภูมิตก” นอกจากติดเชื้อ HIV แล้ว ยังมีโอกาสถูกโรคอื่นๆ คุกคามได้ เพราะภูมิคุ้มกันร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะป้องกันเชื้ออื่นๆ ได้อีกต่อไป เชื้อ HIV สามารถนำไปสู่โรคอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เรียกว่า “โรคเอดส์”
อาการของการติดเชื้อ HIV
อาการทั่วไปไม่ค่อยมีใครสังเกตได้ เนื่องจากอาการมีลักษณะเหมือนการติดเชื้อไข้หวัดทั่วไป เช่น ปวดหัว มีไข้ เจ็บคอ และอาจมีแผลในช่องปาก ตามลำคอ บางรายถึงขั้นมีผื่น และต่อมน้ำเหลืองขึ้นตามร่างกาย ในระยะเริ่มต้นที่ติดเชื้อ HIV เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายจะทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และร่างกายจะเริ่มมีอาการข้างต้นน้อยลง เมื่อร่างกายเริ่มควบคุมเชื้อไวรัสได้
จะรู้ได้ยังไงว่าเราติดเชื้อ HIV
วิธีที่จะช่วยตรวจสอบได้ดีและผลแม่นยำที่สุดในปัจจุบัน มักทำด้วยการตรวจเลือด การเก็บน้ำลายหรือของเหลวในช่องปากที่หน่วยงานที่ให้บริการในการตรวจเชื้อ HIV หรือบางผลิตภัณฑ์ที่สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าผลิตภัณฑ์ที่จะซื้อมาทำการตรวจนั้นได้รับมาตรฐานรองรับ
หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่อาจเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ควรทำอย่างไร
ปัจจุบัน ถ้ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV จากการมีเพศสัมพันธ์ควรเข้ารับการตรวจ HIV ภายในระยะเวลาที่เร็วที่สุด คือ ภายในระยะเวลา 14 วัน หลังจากได้รับเชื้อเข้ามาแล้ว แต่อาจจะยังไม่ทราบผลที่แน่ชัดทันทีถ้าเชื้อไวรัสมีปริมาณน้อย ถ้าผลการตรวจครั้งเป็นลบ แนะนำให้ตรวจซ้ำทุกๆ 3 เดือน เพื่อทราบผลตรวจที่ชัดเจนและแม่นยำ
การตรวจเชื้อ HIV ทำได้อย่างไรบ้าง
เมื่อสงสัยว่าติดเชื้อ HIV การตรวจเชื้อ HIV สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
-
การตรวจเลือด เป็นวิธีทั่วไปที่คนเรามักจะนึกถึงเป็นวิธีแรก ในการตรวจหาเชื้อ HIV แพทย์จะทำการเจาะเลือดจากเส้นเลือดดำที่แขนของเรา และเลือดจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ
-
การทดสอบด้วยน้ำลายในช่องปาก การทดสอบนี้ใช้ไม้เก็บเชื้อกวาดเพื่อเก็บของเหลวจากภายในช่องปาก จากนั้นตัวอย่างจะถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ
-
การทดสอบแบบรวดเร็วด้วยเลือดหรือของเหลว เป็นการตรวจเชื้อได้รวดเร็วที่สุด ด้วยการใช้เลือดหรือของเหลวในช่องปากปริมาณเล็กน้อย ใช้เวลาเพียง 20 นาที ก็สามารถรับผลตรวจได้เลย การทดสอบแบบนี้มักทำที่คลินิกหรือศูนย์ทดสอบที่เป็นบูธตามนิทรรศกาลต่างๆ
-
การทดสอบที่บ้าน ด้วยการซื้อชุดตรวจ HIV ที่มีจำหน่ายที่ร้านยาหรือทางออนไลน์ ใช้การเก็บตัวอย่างเลือดหรือของเหลวในช่องปากที่บ้านและส่งไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อทำการทดสอบ ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน
หากพบว่าติดเชื้อ HIV ควรทำอย่างไรต่อไป
หากตรวจพบการติดเชื้อ HIV สิ่งแรกที่ต้องทำคือรีบไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษา HIV ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อติดต่อขอเข้ารับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ซึ่งสามารถช่วยยับยั้งไวรัสและลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น และอีกสิ่งที่สำคัญคือต้องแจ้งให้คู่นอนทราบ เพื่อที่จะได้ดำเนินการป้องกันและให้คู่นอนเข้ารับการตรวจด้วย
การเข้าตรวจเชื้อ HIV และการรักษาเชื้อ HIV ตั้งแต่ระยะแรกหลังตรวจพบ จะช่วยให้สุขภาพของเรากลับมาดีขึ้นได้ และยังลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสไปยังผู้อื่น หากคุณคิดว่าคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ HIV เราขอแนะนำให้เข้ารับการตรวจโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของคุณ
บทความที่น่าสนใจ
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 23/05/2023
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com