ข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุม 

ฝังยาคุมกับฉีดยาคุมอันไหนดีกว่า

ฉีดยาคุมกับฝังยาคุมแบบไหนดีกว่า? คุณผู้หญิงหลายคนอาจจะลังเลใจเมื่อต้องการคุมกำเนิดว่าจะเลือกแบบไหนดี การฉีดยาคุมและฝังยาคุมถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับการฝังยาคุมกัน

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

เรื่องแรกเลยที่ถือว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่างการคุมกำเนิดทั้ง 2 วิธีนี้ ก็คือประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

การฝังยาคุมกำเนิดนั้นถือว่าให้ผลในการป้องกันได้ดีกว่าการฉีดยาคุม ไม่ว่าจะเป็นยาคุมแบบฉีดชนิด 1 เดือน หรือ ยาคุมแบบฉีดชนิด 3 เดือน

ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด

  • ฝังยาคุมมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์เพียง 0.05% 

  • ยาฉีดคุมกำเนิดจะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 6%


ราคาฉีดยาคุมกำเนิดและฝังยาคุมกำเนิด

ราคาฉีดยาคุมกำเนิดและฝังยาคุมกำเนิด

ในส่วนของราคานั้นยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 499 บาท ส่วนยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน ราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท 

  ดูโปรแกรมการฉีดยาคุมกำเนิด

ในขณะที่การฝังยาคุมแบบ 3 ปี ราคา 5,490 บาท และการฝังยาคุมแบบ 5 ปี ราคาอยู่ที่ 5,990 บาท ทั้งนี้ราคาอาจมีการปรับเปลี่ยนตามคำวินิจฉัยของแพทย์

  ดูโปรแกรมฝังยาคุมกำเนิด


ระยะเวลาในการคุมกำเนิดและความกังวลของผู้รับบริการ

สำหรับการฝังยาคุมนั้นเป็นการคุมกำเนิดในระยะยาวที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตามประเภทของยาคุมที่ฝังโดยมีระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปี

ส่วนการฉีดยาคุมกำเนิด (Injection Contraceptives) สามารถคุมกำเนิดได้ในระยะสั้นเพียง 1 - 3 เดือนเท่านั้น เมื่อครบกำหนดต้องทำการฉีดซ้ำ


จะเห็นได้ว่าการฝังยาคุมนั้นป้องกันได้
ยาวนานกว่าจึงสบายใจได้กว่า
จะลดโอกาสการตั้งครรภ์และไม่ต้องกังวล
เรื่องกินยาหรือฉีดยาคุมบ่อยๆ ด้วย


 


การกลับเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์

แน่นอนการคุมกำเนิดนั้นเป็นการป้องกันในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณพ่อคุณแม่มีความพร้อมก็อาจต้องการที่จะมีบุตร และยกเลิกการคุมกำเนิด

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบยาคุมแบบฉีด กับการฝังยาคุมแบบ 3 ปี และ 5 ปี การคุมกำเนิดด้วยวิธีฝังยาคุมจะสามารถกลับเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์เพื่อมีบุตร ได้เร็วกว่าการป้องกันด้วยการฉีดยาคุมถึง 90 % เลยทีเดียว


ประเภทของฮอร์โมน

ประเภทของฮอร์โมน

สำหรับยาคุมแบบฉีดนั้นมีทั้งแบบฮอร์โมนรวมที่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตเจน ใช้คุมกำเนิดได้นาน 1 เดือน กับยาฉีดคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนอย่างเดียวใช้คุมกำเนิดได้นาน 3 เดือน

ในขณะที่ยาคุมกำเนิดแบบฝังจะเป็นแบบฮอร์โมนชนิดเดียวอย่างเดียวไม่มีแบบฮอร์โมนรวม

  ยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน กับ ยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน ควรเลือกแบบไหนถึงเหมาะกับคุณ


การคุมกำเนิดหลังคลอด

ความแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุมในกรณีของคุณแม่หลังคลอด

หากเป็นยาคุมกำเนิดแบบฝังสามารถทำได้หลังคลอด โดยไม่มีผลกับน้ำนม เหมือนยาคุมชนิดฉีดแบบรายเดือน ทั้งนี้ควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ที่จะประเมินก่อนการคุมกำเนิดด้วย


ความเจ็บจากการฝังยาคุมและฉีดยาคุม

ความเจ็บจากการฝังยาคุมและฉีดยาคุม

การฝังยาคุมกำเนิดจะมีการผ่าตัดที่ท้องแขนเป็นแผลเล็กๆ มากๆ ซึ่งผู้ที่มารับบริการก็จะเจ็บตัวครั้งเดียวในระยะเวลา 3 หรือ 5 ปี ตามยาคุมที่เลือกฝัง ซึ่งถือว่าฝังแท่งยาครั้งเดียวแล้วออกฤิทธิ์ยาวๆ

ส่วนการฉีดยาคุม จะคุมกำเนิดชั่วคราวในระยะเวลาที่สั้นกว่ามาก คือ 1 เดือน หรือ 3 เดือน ก็ต้องมาพบแพทย์เพื่อฉีดยาคุมกำเนิดตามนัด

เป็นข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุมที่คุณสามารถเลือกได้


และนี้ก็คือข้อแตกต่างระหว่างยาคุมแบบฉีดกับฝังยาคุม รวมถึงยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน, ยาฉีดคุมกำเนิดแบบ 3 เดือน หวังว่าจะช่วยให้คุณมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมหรือฝังยาคุม

สามารถใช้บริการได้จากอินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้านด้วยการค้นหาจากคลินิกใกล้ฉันใน Google หรือสอบถามได้จากช่องทางการติดต่อบนหน้าเว็บไซต์ เรามีแพทย์เฉพาะทางและพยาบาลวิชาชีพตลอดจนเครื่องมือที่ทันสมัยเอาไว้คอยบริการ ในราคาที่สบายกระเป๋า


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

   Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

สนใจทักแชท

  @qns9056c

  อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม


เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
  แก้ไขล่าสุด : 25/10/2024
  อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com

free hit counter
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้