ตรวจและรักษาริดสีดวงทวาร ที่คลินิกใกล้บ้าน

ริดสีดวงทวาร ควรพบแพทย์เมื่อไร

1. เลือดออกทางทวารหนักเป็นประจำ 

2. มีอาการปวดหรือบวมอย่างรุนแรง 

3. พบก้อนเนื้อบริเวณทวารหนักที่ไม่หายไป

4. ท้องผูกเรื้อรังหรืออาการที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยตัวเอง

5. อาการส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

ประสบการณ์การรักษาริดสีดวง

“ส่วนใหญ่ก็มาด้วยท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายมีเลือดปน มีก้อนที่ก้นเวลาเบ่ง ถ้ามาเจอหมอเร็วก็สามารถใช้ยาบรรเทาอาการร่วมกับปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตได้

แต่ก็เคยเจอเคสที่ปล่อยไว้นานเป็นเยอะแล้ว เช่น ก้อนโผล่ออกตลอดเวลาดันกลับเข้าไปไม่ได้ ในกรณีนี้ต้องรีเฟอไปผ่าตัดค่ะ”

- แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล (แพทย์ประจำคลินิก) -

รักษาด้วยการผ่าตัด

เหมาะสำหรับริดสีดวงที่มีอาการรุนแรง เช่น ระยะที่ 3-4 หรือในกรณีที่การรักษาแบบไม่ผ่าตัดไม่ได้ผล

1. การผ่าตัดแบบมาตรฐาน (Hemorrhoidectomy) ใช้ในการตัดริดสีดวงออกทั้งหมด เหมาะสำหรับริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่หรือยื่นออกมา

2. การผ่าตัดแบบใช้เครื่องมือตัดเย็บ (Stapled Hemorrhoidopexy) วิธีนี้ใช้เครื่องมือตัดเย็บพิเศษเพื่อยกและลดหลอดเลือดดำที่โป่งพอง เหมาะสำหรับริดสีดวงภายใน

3. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Hemorrhoidoplasty) ใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อลดขนาดหลอดเลือดในริดสีดวง มักเจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวเร็ว

4. การจี้ด้วยอินฟราเรด (Infrared Coagulation) ใช้ความร้อนจากแสงอินฟราเรดจี้หลอดเลือดในริดสีดวง ทำให้หลอดเลือดฝ่อลง

ตรวจริดสีดวงเจ็บไหม หมอตรวจยังไง

การตรวจโดยทั่วไปจะไม่เจ็บแต่อาจรู้สึกไม่สบายตัว ไม่คุ้นชินได้เล็กน้อย โดยหมอจะใช้มือคลำตรวจและอุปกรณ์ส่องเข้าไปในช่องทวารหนักเพื่อตรวจดูความผิดปกติ

วิธีเตรียมตัวก่อนรักษาริดสีดวง

ไม่ต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษเพราะไม่ได้มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่ยุ่งยากซับซ้อน เหมือนการผ่าตัดเพื่อทำการรักษา เพียงแต่ควรเลี่ยงการสวนล้างทวารหนัก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บริเวณทวารหนักก่อนการตรวจ 24 ชั่วโมง และไม่ต้องอดข้าว อดน้ำค่ะ