“ลูกเจี๊ยบ” หรือ “ฟองน้ำอนามัย” เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ใช้สำหรับซับเลือดประจำเดือนด้วยการสอดเข้าไปภายในช่องคลอด เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ประจำเดือนมามากแต่มีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การเข้าป่า เดินทางไกล การว่ายน้ำ ตลอดไปจนถึงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือน ฯลฯ
เมื่อใช้งานเสร็จจะต้องเอาลูกเจี๊ยบออก เอาฟองน้ำอนามัยออก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน วิธีเอาลูกเจี๊ยบออก เอาฟองน้ำอนามัยออก ทำยังไง? บทความนี้จากเรามีคำตอบ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับฟองน้ำอนามัยหรือลูกเจี๊ยบ
โดยส่วนใหญ่แนะนำให้ใส่ลูกเจี๊ยบหรือฟองน้ำอนามัยในช่วงเวลา 4-8 ชั่วโมง และเอาลูกเจี๊ยบออก ก่อนที่จะใส่ลูกเจี๊ยบชิ้นใหม่เข้าไปแทนที่หรือเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ผ้าอนามัยชนิดแผ่น ผ้าอนามัยชนิดสอดหรือแผ่นอนามัยแทน ไม่แนะนำให้ใส่ลูกเจี๊ยบต่อเนื่องนานกว่า 8 ชั่วโมง เพราะอาจเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อภายในช่องคลอดได้
เอาลูกเจี๊ยบออก เอาฟองน้ำอนามัยออกจากช่องคลอด มีแพทย์ผู้หญิงให้บริการ ไม่ต้องเขินอาย ใช้เวลาไม่นาน ปลอดภัย สามารถสอบถามราคาเบื้องต้นก่อนได้ค่ะ
เอาฟองน้ำอนามัยออกจากช่องคลอด ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท
ในกรณีที่ไม่สามารถเอาลูกเจี๊ยบออกจากช่องคลอดได้ด้วยตนเอง ควรรีบเข้าพบแพทย์ที่คลินิกนรีเวชใกล้ฉัน เพื่อให้แพทย์ใช้อุปกรณ์คีบเอาฟองน้ำอนามัยออกพร้อมทั้งตรวจภายใน ไม่ควรพยายามล้วงหรือดึงลูกเจี๊ยบออกด้วยตัวเองหลายๆ ครั้ง เพราะอาจทำให้ลูกเจี๊ยบขาดเป็นชิ้นเล็กๆ จนเกิดการตกค้างภายในหรือทำให้เกิดรอยแผลถลอกภายในช่องคลอดได้
สำหรับสาวๆ ที่ใช้ลูกเจี๊ยบหรือฟองน้ำอนามัยและไม่สามารถเอาลูกเจี๊ยบออก เอาฟองน้ำอนามัยออกได้ด้วยตนเอง ควรเข้าพบแพทย์ที่คลินิกนรีเวช ใกล้ฉัน เพื่อเอาลูกเจี๊ยบออกอย่างถูกวิธี ป้องกันการเกิดรอยแผลถลอกและการติดเชื้อภายในช่องคลอด
ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม เราพร้อมให้บริการตรวจภายในและความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้ลูกเจี๊ยบ ฟองน้ำอนามัย โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำการวินิจฉัยและตรวจรักษาด้วยความรวดเร็ว แม่นยำและมีความปลอดภัยสูง หากสนใจสามารถค้นหา คลินิกใกล้ฉัน ใน google ได้เลย เรายินดีให้บริการทุกท่าน และสามารถทักแชทสอบถามแพทย์ที่ขึ้นเวรว่าเป็นแพทย์ผู้หญิงได้ด้วยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 09/11/2023
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com