ตรวจคัดกรองเบาหวานถือเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยป้องกันคุณเองจากการเป็นโรคเบาหวาน โรคเรื้อรังที่พบมากในประชากรไทย หากตรวจพบว่าเป็นเบาหวานก็ยังสามารถรักษาได้ทันเพื่อไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงอย่างโรคเรื้อรัง อย่างโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เส้นประสาทเสื่อม ไตเสื่อม ไตวาย หรือเบาหวานขึ้นจอตาซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้เลย ซึ่งโรคเหล่านี้ถือเป็นโรคที่อันตรายมาก
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองเบาหวาน
การตรวจคัดกรองเบาหวานนั้นสามารถทำได้มีหลายวิธี โดยแพทย์จะทำการซักประวัติและสอบถามเพื่อประเมินความเสี่ยงจากประวัติสุขภาพ ประวัติครอบครัว และตรวจร่างกาย จากนั้นอาจจะพิจารณาการตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธี การเจาะเลือดวัดระดับตาลที่ปลายนิ้ว หรือการเจาะระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดน้ำ งดอาหาร ซึ่งการตรวจคัดกรองเบาหวานเพิ่มเติมจะมี 3 วิธี ดังต่อไปนี้
น้ำตาลสะสม หรือน้ำตาลเฉลี่ย หรือฮีโมโกลบินเอวันซี (HbA1C) คือ ระดับน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมา ค่าน้ำตาลเฉลี่ยจะช่วยให้แพทย์ในการเฝ้าระวังติดตามผู้ป่วยเบาหวานว่าสามาถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีเพียงใด ควบคู่ไปกับการดูระดับน้ำตาลหลังงดอาหาร 6 - 8 ชั่วโมง ในผู้ป่วยเบาหวานแนะนำให้ตรวจระดับน้ำตาลสะสมอย่างน้อย ปีละ 2 - 4 ครั้ง โดยสามารถพิจารณาค่าน้ำตามได้ ดังนี้
ค่าปกติ ต้องมีค่าน้ำตาลเฉลี่ยน้อยกว่า 5.7 %
ผู้ที่มีภาวะก่อนเป็นเบาหวาน จะมีค่าน้ำตาลเฉลี่ย อยู่ระหว่าง 5.7 - 6.4 % (หากค่ายิ่งสูงจะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น)
ผู้ที่เป็นเบาหวาน จะมีค่าน้ำตาลเฉลี่ย มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 %
การตรวจวิธีนี้เป็นวิธีการวัดระดับน้ำตาลในเลือดมีค่า หลังงดน้ำและงดอาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
โดยวิธีการตรวจ ผู้ป่วยจะต้องงดรับประทานอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ก่อนการทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล ในวันที่เข้ารับการตรวจ เจ้าหน้าที่จะเจาะเลือดผู้ป่วยเพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือด จากนั้นจึงให้ดื่มสารละลายน้ำตาลกลูโคส หลังรับประทานสารละลายกลูโคส 75 กรัม และรอตรวจระดับน้ำตาลอีกครั้งเมื่อครบ 2 ชั่วโมง โดยทั่วไประดับน้ำตาลในเลือดจะกลับสู่ระดับปกติ คือ ค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตรภายใน 2 ชั่วโมง
ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่ามีภาวะก่อนเบาหวาน
ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จะถือว่าเป็นโรคเบาหวาน
*ผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวานและโรคเบาหวาน จะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าระดับปกติ แม้จะตรวจหลังผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้ว
ค่าบริการตรวจคัดกรองเบาหวาน ราคา 850 บาท ซึ่งราคานี้จะมีรายการตรวจคือ
1. ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ / Physical Examination
2. ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด Glucose / FBS
ราคาตรวจคัดกรองเบาหวานตามรายการข้างต้นรวมค่าแพทย์และบริการทางคลินิกแล้ว
หมายเหตุ : ทั้งนี้ราคาตรวจคัดกรองเบาหวานอาจแตกต่างกันไปในคนไข้แต่ละคน ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์
หลายคนอาจไม่ทราบว่าการตั้งครรภ์ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องจากฮอร์โมนของรกนั้นสามารถทำการต้านอินซูลินได้ทำให้เกิดภาวะดื้ออินซูลิน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ คุณแม่จึงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองเบาหวาน โดยการตรวจจะใช้ 2 วิธี ดังนี้ คือ
50g glucose challenge test (50g GCT)
100-gram oral glucose tolerance test (OGTT)
การตรวจคัดกรองเบาหวานในคุณแม่ตั้งครรภ์จะใช้วิธี 50g glucose challenge test (50g GCT) โดยจะต้องทำตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการฝากครรภ์ ซึ่งหากอยากทราบว่าตัวของคุณแม่นั้นมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จะสามารถพิจารณาได้จากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) หากวัดแล้วได้มากกว่า 23 อาจต้องพิจารณาต่อจากปัจจัยเสี่ยง
หากไม่ได้มีความเสี่ยงจะให้ทำการตรวจคัดกรองที่อายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ (ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์) โดยเริ่มจากการทดสอบ 50-gram glucose challenge test ตามด้วยการทดสอบ 100-gram oral glucose tolerance test เฉพาะในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติ
โรคเบาหวาน ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถส่งต่อทางพันธุกรรมได้ ซึ่งที่สามารถพบได้จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หากตัวพ่อหรือแม่เองมีอาการป่วยเป็นโรคเบาหวานก็มีโอกาสสูงที่ลูกจะเป็นโรคเบาหวานด้วย โดยเฉพาะในฝาแฝดหากใครคนใดคนหนึ่งเป็นโอกาสที่อีกคนจะเป็นเบาหวานด้วยก็สูงถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว ซึ่งการเกิดเบาหวานทางพันธุกรรม นั้นอาจรวมไปถึงปัจจัยทางสภาพแวดล้อมด้วย หรือพฤติกรรมของผู้ป่วยเองด้วย เช่น การรับประทานอาหาร หรือไม่ชอบขยับตัวจึงเกิดการสะสมไขมันมากเกินความจำเป็น
ถึงแม้ว่าเบาหวานจะสามารถส่งต่อผ่านพันธุกรรมได้ แต่หากคุณดูแลสุขภาพของตนเองอย่างดี ก็มีโอกาสลดความเสี่ยงของการเกิดเบาหวานได้เช่นกัน