ชุดตรวจ HIV อเลีย เอชไอวี คอมโบ (Alere HIV Combo)

อเลีย เอซไอวี คอมโบ (Alere HIV Combo)

ชุดตรวจการติดเชื้อเอชไอวี อเลีย เอชไอวี คอมโบ เป็นชุดตรวจเลือด HIV เชิงคุณภาพตัวยวิธีอิมมูโน ชนิดอ่านผลด้วยตาเปล่า ที่ไช้ตรวจหา แอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสเอชไอวี-1 และเอชไอวี-2 และใช้ตรวจหาเอชไอวี-1 พี24 แอนติเจนที่เป็น non immunocomplexed (free) ในเลือดครบส่วนของมนุษย์ที่เจาะใส่ capillary และที่เจาะจากหลอดเลือดดำ พลาสมา หรือ ซีรั่ม

วัตถุประสงค์การใช้เพื่อการวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวี-1/เอชไอวี-2 รายบุคคลที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อ ปฏิกิริยาที่เกิด 1) บนแถบแอนติบอดีอย่างเดียว 2) บนแถบแอนติเจนอย่างเดียว 3) บนแถบทั้งสองคือแถบแอนติบอดีและแถบแอนติเจนพร้อม ๆ กัน จะพิจารณาได้ว่า เกิดปฏิกิริยาที่ชี้แนะว่ามีการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งชุดตรวจ Alere HIV Combo ต้องถูกใช้โดยผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพเท่านั้น

ตรวจเลือด HIV ที่คลินิกตรวจ HIV ใกล้ฉัน

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชุดตรวจ HIV อเลีย เอชไอวี คอมโบ


T-cell

บทสรุปและคำอธิบายของการทดสอบ

โรคเอดส์ (โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง) พบลักษณะการเปลี่ยนแปลงจำนวนของเม็ดเลือดขาวชนิด T-cell lymphocyte ในผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัสทำให้ CD4 helper T-cells ลดลง ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถติดเชื้อที่เป็นเชื้อฉวยโอกาสและมีโอกาสเป็นมะเร็งบางชนิดได้ง่าย ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์มีอยู่ 2 ชนิดที่มีความเกี่ยวข้องกันคือ เอชไอวี-1 และเอชไอวี-2

การแบ่งตัวเพิ่มจำนวนของเชื้อเอชไอวีในเซลล์ที่ติดเชื้อ ทำให้เซลล์แตกและปลดปล่อยอนุภาคไวรัสเอชไอวี ซึ่งตรวจพบได้ครั้งแรกในรูปแบบ ของ HIV RNA และต่อไปในรูปแบบของแอนติเจนเอชไอวี ตามมาด้วยการสร้างแอนติบอตีจำเพาะต่อเอชไอวี-1 หรือ เอชไอวี-2 แอนติเจนเอชไอวีอาจไม่สามารถถูกตรวจพบได้ในระยะนี้ เนื่องจากมีการเกิดรูปแบบของ antibody-antigen complex ขึ้น


การเก็บเลือดครบส่วนจากปลายนิ้ว

ใช้หลอดอีดีทีเอ คาปิลลารี่ (EDTA Capillary Tubes) (7D2222)

ข้อควรระวัง : หลอดคาปิลลารี่ที่เป็นแก้ว (Glass capillary) อาจแตกหักระหว่างการนำส่ง หรือระหว่างการใช้งาน ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บในขณะนำออกจากภาชนะบรรจุรวมถึงระหว่างการใช้งานและระหว่างการนำไปกำจัดทิ้งก่อนการเจาะเก็บเลือดจากปลายนิ้ว ควรวางหลอดคาปิลลารี่ (Capillary Tubes) ไว้บนพื้นที่แห้งและสะอาด

การเก็บเลือดส่วนจากปลายนิ้ว

  1. เลือกเจาะบนนิ้วกลาง นิ้วนาง หรือนิ้วชี้ (นิ้วใดนิ้วหนึ่งที่มีผิวหนังที่บางที่สุด) อุ่นมือที่จะถูกเจาะเลือดด้วยผ้าร้อนหรือแช่น้ำอุ่นเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

  2. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดปลายนิ้ว แล้วปล่อยให้แห้ง

  3. หงายฝ่ามือขึ้น แกะใบมืด และจรดใบมีดลงที่ส่วนกลางของปลายนิ้วกดใบมีดอย่างมั่นคงลงบนนิ้วมือและเจาะลงบนผิวหนังทิ้งใบมืดเจาะเลือดลงในที่ทิ้งขยะติดเชื้อสำหรับของมีคม

  4. เช็ดเลือดหยดแรกด้วยแผ่นผ้าก๊อซที่ปราศจากเชื้อ

  5. จับนิ้วมือไว้ให้หงายอยู่ในระดับต่ำกว่าข้อศอก บีบที่โคนนิ้วที่เจาะเบาๆ เป็นระยะหลาย ๆ ครั้ง แล้วนำปลายหลอดคาปิลลารี่ (Capillary tube) เลือดบนปลายนิ้ว ระวังอย่าให้มีฟองอากาศ บรรจุเลือดให้เต็มหลอดโดยให้ระดับเลือดอยู่ระหว่างเครื่องหมายขีดสองเส้นที่ปลายสองข้างของหลอดคาปิลลารี่ (Capillary tubes) (50 ไมโครลิตร)


วิธีเก็บรักษาสิ่งส่งตรวจ

วิธีเก็บรักษาสิ่งส่งตรวจ Hiv

  • สิ่งส่งตรวจที่เป็นซีรั่มหรือพลาสมา สามารถเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียสและทำการตรวจภายใน 7 วันหลังการเจาะเลือด แต่ถ้านานกว่า 7 วัน ควรเก็บโดยการแช่แข็งที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเชียส หรือต่ำกว่า

  • หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งส่งตรวจที่ทำการแช่แข็ง หรือมีการละลายหลายรอบ

  • ลิ่งส่งตรวจที่เป็นซีรั่มหรือพลาสมา หากพบว่ามีอนุภาคปน หรือมีความขุ่นควรนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยง (Centrifuge) ที่ 10,000 g เป็นเวลา 5นาที ที่อุณหภูมิห้องก่อนนำไปเป็นตัวอย่างตรวจ ควรดูดของเหลวที่อยู่ด้านบน 50 ไมโครลิตร ออกมาอย่างระมัดระวัง ถ้ามีการแยกชั้นไขมันเกิดขึ้นที่ผิวของของเหลว ควรแน่ใจว่าสิ่งส่งตรวจที่นำออกมาต้องเป็นส่วนใสใต้ชั้นนั้น

  • สำหรับการเก็บเลือดครบส่วน (Whole blood) ที่ได้จากการเจาะหลอดเลือดดำ

  • ควรเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเชียส และทำการตรวจภายใน 7 วัน หลังการเจาะเลือด ห้ามเก็บสิ่งส่งตรวจที่เป็นเลือดครบส่วนโดยวิธีแช่แข็ง การผสม

  • สิ่งส่งตรวจที่ดี ควรพลิกหลอดทดสอบกลับไปมาอย่างอ่อนโยนในทันที

  • ก่อนนำสิ่งส่งตรวจไปทดสอบ

  • สำหรับการเก็บเลือดครบส่วนที่ได้จากการเจาะปลายนิ้วควรนำไปทำการทดสอบในทันที

วิธีการทดสอบชุดตรวจ Alere HIV Combo

วิธีการทดสอบชุดตรวจ Alere HIV Combo

แบ่งแผ่นทดสอบตามจำนวนที่ต้องการโดยหักและฉีกตามรอยปรุที่แผ่นทดสอบซึ่งมีทั้งหมด 10 แผ่น

  • การแบ่งแผ่นทดสอบออกแต่ละแผ่นควรเริ่มหักและฉีกจากด้านขวาของแผ่นทดสอบเพื่อให้เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิตยังคงปรากฎอยู่ทางด้านซ้ายของแผ่นทดสอบซึ่งเลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิตและวันหมดอายุไม่ได้พิมพ์อยู่บนแผ่นทดสอบแต่ละแผ่น

  • ในการทดสอบแต่ละครั้งควรทำการทดสอบทันทีหลังจากแกะกระดาษฟอยล์ที่หุ้มแต่ละแผ่นทดสอบออก

  • ถ้าแผ่นทดสอบแห้งระหว่างการอ่านผลและเริ่มจะเห็นแถบทดสอบยากขึ้นควรทำการทดสอบซ้ำโดยใช้แผ่นทดสอบแผ่นใหม่

  • ถ้าตัวอย่างที่เป็นชีรั่มหรือพลาสมาไม่ไหล หรือไหลแบบผิดปกติ เช่น หยุดไหลตรงระหว่างช่องอ่านผลควรนำสิ่งส่งตรวจนั้นไปปั่นโดยเครื่องปั่นเหวี่ยง (Centrifuge) และทำการทดสอบช้ำกับแผ่นทดสอบแผ่นใหม่


ข้อควรระวังการใช้ชุดตรวจ HIV อเลีย เอชไอวี คอมโบ

  • สำหรับใช้เพื่อการวินิจฉัยภายนอกร่างกาย (In Vitro Diagnostic Use)

  • สำหรับผู้เชี่ยวชาญในวิชาชีพเท่านั้น

ข้อควรระวังการใช้ชุดตรวจ HIV อเลีย เอซไอวี คอมโบ

เมื่อมีการใช้สิ่งส่งตรวจและน้ำยาทดสอบในการปฏิบัติงาน ควรมีข้อปฏิบัติที่เหมาะสมด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety practices) ควรมีข้อควรระวังเหล่านี้แต่ไม่จำกัดแค่ที่ระบุไว้ ดังต่อไปนี้

  • สวมถุงมือ

  • ห้ามดูดปิเปตต์ด้วยปาก

  • ห้ามรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม สูบบุหรี่ ใช้เครื่องสำอาง หรือใส่คอนแทคเลนส์ในบริเวณปฏิบัติงาน

  • ทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ เมื่อมีสิ่งส่งตรวจหรือน้ำยาหก โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม เช่น 0.5% โซเดียม ไฮโปดลอไรท์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้ออื่นที่เหมาะสม

  • การกำจัดสิ่งปนเปื้อน และทิ้งสิ่งส่งตรวจทั้งหมด แผ่นทดสอบที่ใช้แล้ว และวัสดุอื่น ๆ ที่อาจเกิดจากการปนเปื้อน ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง


ข้อจำกัดของชุดตรวจ HIV อเลีย เอชไอวี คอมโบ

  • ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี อเลีย เอชไอวี คอมโบ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ตรวจหาแอนดิบอดีต่อเชื้อเอชไอวี-1 และ/หรือเอชไอวี-2 และเอชไอวี -1 พี24 แอนติเจน ที่เป็น non-immunocomplexed (free) ในซีรั่ม พลาสมาและสิ่งส่งตรวจครบส่วนที่เจาะใส่ capillary และที่เจาะจากหลอดเลือดดำของมนุษย์ กรณีของเหลวจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายหรือสิ่งส่งตรวจที่มาจากหลายๆ แหล่งมารวมกันอาจไม่ให้ผลที่ถูกต้องและไม่ควรนำมาใช้

  • ความเข้มของแถบแอนติบอดีและแถบแอนติเจน ไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับระดับปริมาณของแอนติบอดีและแอนติเจนในสิ่งส่งตรวจ ดามลำดับ

  • ผลการทดสอบที่เกิดปฏิกิริยาสำหรับแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี -1/2 ร่วมกับผลการทดสอบที่ไม่เกิดปฏิกิริยาสำหรับเอชไอวี-1 พี 24 แอนติเจน ไม่ได้ทำให้หมดโอกาสความเป็นไปได้ของการติดเชื้อเอชไอวีในระยะเฉียบพลัน

  • ผลการทดสอบที่เกิดปฏิกิริยา ควรยืนยันผลโดยการใช้วิธีทดสอบอื่น และผลการทดสอบควรประเมินในแง่ของผลการประเมินทางคลินิกทั้งหมดก่อนทำการวินิจฉัย

  • ไม่มีการทดสอบใดที่ให้ความเชื่อมั่นได้อย่างสมบูรณ์ว่าสิ่งส่งตรวจนั้นจะไม่ได้มีเอชไอวี-1 พี24 แอนติเจน และเหรือ เอชไอวี-1 และเอชไอวี-2 แอนติบอดี ในระดับต่ำ เช่น ที่พบในผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระยะแรกเริ่มหรือในระยะสุดท้าย

  • ผลการทดสอบที่ไม่เกิดปฏิริยาทั้งแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวี 12 และเชื้อเอชไอวี-1 พี 24 แอนดิเจน ไม่ได้ทำให้หมดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะได้รับหรือติดเชื้อไวรัสเอชไอวี-1หรือเอชไอวี-2

ข้อจำกัดของชุดตรวจ HIV อเลีย เอซไอวี คอมโบ
  • การไม่ปรากฏแถบแอนติเจนอาจเกิดขึ้นเมื่อ p 24 แอนติเจนทั้งหมดถูกจับด้วยแอนติบอดี เมื่อแอนดิบอดีต่อ p 24 แอนดิเจนเกิดขึ้นในเลือดในระดับสูง หลังจากการเกิด seroconversion แอนติบอดีมีแนวโน้มจับกับแอนดิเจนเกิดเป็น immunocomplexed ชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี อเลีย เอชไอวี คอมโบ จะตรวจสอบได้เฉพาะแอนติเจนที่เป็น non-immunocomplexed (free) ไม่สามารถตรวจสอบแอนติเจนที่เป็น immunocomplexed (bound)

  • พบว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวีบางรายที่ได้รับการรักษาด้วย ยาต้านไวรัสเอชไอวี (Antiretroviral) เมื่อได้รับการทดสอบด้วยวิธีการวินิจฉัยที่ง่ายและรวดเร็ว ปรากฏว่าให้ผลการทดสอบเป็นผลลบปลอม

  • ข้อมูลทางคลินิกหรือข้อมูลอื่นๆแสดงผลการทดสอบที่ไม่สอดคล้องกัน ผู้ป่วยแต่ละรายควรได้รับการทดสอบด้วยวิธี Nucleic acid testing (NAT) technologies ทันที และ/หรือทดสอบช้ำสำหรับแอนติบอดีต่อเชื้อเอชไอวีหลังจาก 21 วัน นับจากการทดสอบเริ่มต้น

  • สิ่งส่งตรวจเลือดครบส่วนหรือพลาสมาที่มีสารต้านการเเข็งตัวของเลือดนอกเหนือจากอีดีทีเอ ยังไม่ได้รับการตรวจสอบเพื่อใช้กับชุดตรวจที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเอชไอวี อเลีย เอชไอวี คอมโบ และอาจให้ผลการทดสอบที่ไม่ถูกต้อง

  • ทารกที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี อาจมีแอนติบอดีจากแม่มาด้วย และจะตรวจพบแอนติบอดีเป็นบวก จนกระทั่งทารกมีอายุ 18 เดือน ซึ่งอาจไม่จำเป็นที่จะบ่งชี้สถานะการติดเชื้อที่แท้จริงของทารกแรกเกิดได้ การใช้วิธีทดสอบเอชไอวี-1 พี 24 แอนติเจนเพื่อระบุการติดเชื้อในทารกแรกเกิด (จนถึงประมาณ 18 เดือน) เป็นสิ่งที่ไม่แนะนำจาก CDC เพราะมีความไวต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตรวจพบเอชไอวี แอนติบอดี การวินิจฉัยการติดเชื้อเอชไอวีที่น่าเชื่อถือในทารกแรกเกิดยังมีวิธีอื่นๆ รวมทั้งวิธีการตรวจหา HIV nucleic acid หรือการเพาะเชื้อไวรัส (Viral Culture)


ตรวจเลือด HIV ที่คลินิกตรวจ HIV ใกล้ฉัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้