ไข้หวัดธรรมดา อาการป่วยที่พบบ่อยในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว และเป็นอาการที่พบบ่อยในคลินิก โดยผู้ป่วยมักมาด้วยอาการ ไอ จาม น้ำมูกไหล หรืออาการไข้
ถึงแม้ว่าการเป็นหวัดจะดูเป็นอาการป่วยธรรมดา ๆ แต่ก็สามารถมีอาการแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ซึ่งมักพบในกรณีที่เป็นซ้ำหลังจากที่เพิ่งหายดี รู้จักโรคหวัดให้มากขึ้นในบทความนี้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดธรรมดา
เบื้องต้นสามารถสังเกตุจากอาการที่พบได้บ่อย คือ มีไข้, มีน้ำมูกไหล, คัดจมูก, เจ็บคอ, ระคายคอ, จาม และไอ โดยอาการมักรุนแรงขึ้นใน 3 วันแรก และทุเลาลงในวันที่ 4-7 วัน แต่อาการไอและมีน้ำมูกอาจอยู่ได้ถึง 10-14 วัน จากนั้นจะหายเอง
ในช่วงแรกน้ำมูกจะใสเหลว เนื่องจากเป็นสารที่ร่างการหลังเพื่อกำจัดเชื่อโรคในโพรงจมูกและไซนัส หลังจากนั้นเมื่อเม็ดเลือดขาวทำการกำจัดไวรัสจะส่งผลให้น้ำมูกข้นขึ้นหรือเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นหรือเขียวได้
อ่านบทความ: อาการไข้หวัดใหญ่กับไข้หวัดธรรมดา แตกต่างกันอย่างไร?
โดยมากจะหายภายใน 7 วันในผู้ใหญ่ และ 10-14 วันในเด็ก โดยอาการมักรุนแรงขึ้นใน 3 วันแรก และทุเลาลงในวันที่ 4-7 วัน แต่อาการไอและมีน้ำมูกอาจอยู่ได้ถึง 10-14 วัน จากนั้นจะหายเอง
การรักษาไข้หวัดธรรมดาไม่จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ เนื่องจากเกิดจากไวรัสไม่ใช่แบคทีเรีย ยาฆ่าเชื้อไม่ได้ทำให้หวัดหายเร็วขึ้น หากได้รับยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็นอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงของยา เช่น ถ่ายเหลว, การแพ้ยา และเสี่ยงเชื้อดื้อยาในอนาคต
อาการส่วนใหญ่จะหายได้เองภายใน 5-7 วัน ยาส่วนใหญ่จะเป็นการบรรเทาอาการ ในกรณีที่เป็นหวัดจากเชื้อ COVID-19 หรือไข้หวัดใหญ่ ยาต้านไวรัสอาจช่วยลดความรุนแรงของอาการและระยะเวลาในการเป็น
สิ่งที่ช่วยให้อาการหวัดดีขึ้นคือ การพักผ่อนให้เพียงพอ, ดื่มน้ำมากๆ, ในเด็กเล็กแนะนำให้ใช้ลูกยางดูดน้ำมูกหรือใช้น้ำเกลือล้างจมูก, ในผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 1 ปี น้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาอาการไอและเจ็บคอได้
หายใจเหนื่อย, หายใจเร็ว และอกบุ๋ม (Pectus Excavatum) ในเด็ก
กินไม่ได้ รู้สึกเพลียมาก
เป็นไข้นานมากกว่า 4 วัน
มีอาการของโรคหวัดนานมากกว่า 10 วัน โดยที่ไม่ดีขึ้น
กลับมามีอาการแย่ลงใหม่ เช่น มีไข้รอบใหม่ หรือไอมากขึ้น
มีอาการปวดหู เจ็บบริเวณโหนกแก้มหรือใบหน้า
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงนารดา พิรัชวิสุทธิ์
แก้ไขล่าสุด : 15/10/2024
อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com