วัคซีนที่เด็กวัยเราจำเป็นต้องฉีด

      วัยเด็ก เป็นวัยที่ต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ เพื่อให้เติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์แข็งแรงทั้งร่างกายและสติปัญญา ซึ่งตัวช่วยสำคัญนอกจากโภชนาการที่ครบถ้วนแล้วการเข้ารับวัคซีนเด็กก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะการฉีดวัคซีนเปรียบเสมือนการสร้างเกราะคุ้มกันร่างกายเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายแรงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เรามาดูความสำคัญของวัคซีนสำหรับเด็กรวมถึงชนิดของวัคซีนเด็กกันว่ามีวัคซีนตัวไหนที่ต้องฉีดบ้าง

การฉีดวัคซีนคืออะไร?

      การฉีดวัคซีน คือ การฉีดเชื้อเข้าสู่ร่างกายเพื่อสร้างภูมิต้านทาน ช่วยให้ไม่เป็นโรคตามชนิดของวัคซีนที่ฉีด เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่, วัคซีนโปลิโอ, วัคซีนบาดทะยัก, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี หรือวัคซีนรวม เป็นต้น โดยวัคซีนแต่ละตัวก็จะมีอายุการป้องกันโรคที่แตกต่างกันออกไป บางตัวอาจต้องเข้ารับการฉีดทุกปีเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนนั้นมีทั้งวัคซีนเด็กและวัคซีนผู้ใหญ่

ทำไมต้องฉีดวัคซีนเด็ก ?

1. วัยเด็ก โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดถึง 1 ขวบ นั้นเป็นช่วงเวลาสำคัญมากเนื่องจากร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทาน การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคและอัตราการเสียชีวิตลงได้

2. ช่วยให้เด็กสามารถเติบโตขึ้นและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน

3. การฉีดวัคซีน ส่งผลต่อสังคมโดยรวม เพราะเมื่อไม่มีโรคระบาดก็ย่อมลดค่าใช้จ่ายทางด้านสาธารณสุขลงได้ และนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ

วัคซีนสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง ?

      เราได้ทราบกันไปแล้วว่าการฉีดวัคซีนคืออะไร มีความสำคัญกับวัยเด็กและชีวิตโดยรวมอย่างไร คราวนี้เรามาดูกันเลยว่าวัคซีนสำหรับเด็กที่สำคัญนั้นมีอะไรบ้าง

1. วัคซีนคอตีบ-วัคซีนบาดทะยัก-วัคซีนไอกรน ฉีดในช่วง 2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน และฉีดกระตุ้นในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน, 4 ถึง 6 ปี สำหรับวัคซีนคอตีบ-วัคซีนบาดทะยัก ควรฉีดอีกครั้งในช่วงอายุ 11-12 ปี

2. วัคซีนโปลิโอ (Poliovirus) ช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท เช่น แขนขาลีบอ่อนแรง เป็นอัมพาต โดยควรเข้ารับการฉีดวัคซีน ในช่วงอายุ  2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี 6 เดือน และ 4 ปี

3. วัคซีนฮิบ (Hib) ป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคไซนัสและหลอดลม ฉีดในช่วงอายุ 2 เดือน, 4 เดือน, 6 เดือน และฉีดกระตุ้นตอนอายุ 1 ปี 6 เดือน ตามลำดับ

4. วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันไวรัสที่ทำให้ตับเกิดการติดเชื้อและอักเสบ ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงแรกเกิด และ 1 ปี 6 เดือน

5. วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) เป็นวัคซีนเด็กที่ต้องฉีดในช่วงอายุ 9 เดือน หรือ 1 ปี กับช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน

6. วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเจอี ติดต่อสู่คนโดยยุงดำหรือยุงรำคาญกัด โดยควรฉีดในช่วงอายุ 1 ปี กับ 2 ปี 6 เดือน

7. วัคซีนโรตา (Rota) ป้องกันโรคท้องเสียจากไวรัสโรตา เป็นวัคซีนแบบหยอด ควรเข้ารับวัคซีนในช่วงอายุ 2 เดือน, 4 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ

8. วัคซีนรวม สามารถแบ่งออกได้ดังนี้คือ

* วัคซีนรวม 6 โรค: วัคซีนคอตีบ, วัคซีนไอกรน, วัคซีนบาดทะยัก, วัคซีนโปลิโอ, วัคซีน HIB, วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

** วัคซีนรวม 5 โรค: วัคซีนคอตีบ, วัคซีนไอกรน, วัคซีนบาดทะยัก, วัคซีนโปลิโอ ชนิดฉีด, วัคซีน HIB

*** วัคซีนรวม 4 โรค: วัคซีนคอตีบ, วัคซีนไอกรน, วัคซีนบาดทะยัก, วัคซีนโปลิโอ ชนิดฉีด

หมายเหตุ

(1) หากไม่ได้ฉีดวัคซีน MMR เมื่ออายุ 9 เดือน ให้รีบติดตามฉีดโดยเร็วที่สุด

(2) วัคซีนโรตา (Rota) ครั้งที่ 1 อายุน้อยที่สุดที่ให้ได้คือ 6 สัปดาห์

(3) วัคซีนโรตา (Rota) ครั้งที่ 2 ควรให้วัคซีนโด๊สที่สอง ในเด็กอายุไม่เกิน 24 สัปดาห์ และระยะห่างระกว่างโด๊สไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์

      การฉีดวัคซีน ให้ครบตามชนิดและช่วงเวลาที่กำหนดจะช่วยปกป้องและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายตั้งแต่วัยเด็กและส่งผลต่อเนื่องไปยังการใช้ชีวิตตลอดช่วงอายุขัย คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการพาลูกเข้ารับวัคซีน โดยที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมเราให้บริการฉีดวัคซีนเด็กด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน สามารถใช้บริการได้จากทุกสาขาใกล้บ้านด้วยการค้นหาคลินิกใกล้ฉันใน Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ขอทราบเส้นทางและนัดหมายก่อนเข้าใช้บริการค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
  Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

  @qns9056c
  อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม