Last updated: 23 เม.ย 2567 | 17113 จำนวนผู้เข้าชม |
การดูและสุขภาพของช่องคลอดเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม แต่ก็มีหลายคนที่คิดว่าคงไม่มีอะไร และไม่สังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง จนปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นลุกลามกลายเป็นปัญหาต่อสุขภาพ หรือบางครั้งร่างกายก็อาจส่งสัญญาณเตือนแต่เราไม่ยอมรับฟัง เรามาดูกันว่ามีสัญญาณอะไรบ้างที่เตือนเราว่าควรไปตรวจภายในได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไป
เลือกเนื้อหาที่คุณสนใจ
การตรวจภายใน คือ การตรวจเพื่อหาความผิดปกติของอวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน ไม่ว่าจะเป็นช่องคลอด, ปากมดลูก, มดลูก, เยื่อบุโพรงมดลูก รวมถึงท่อรังไข่
โดยใช้อุปกรณ์คล้ายปากเป็ดที่มีขนาดต่างกันออกไปตามความเหมาะสม หรืออาจตรวจโดยใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอดแล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งกดลงบริเวณหน้าท้องเพื่อตรวจหาความผิดปกติ จากนั้นนำผลที่ได้ไปวินิจฉัยเพื่อหาความผิดปกติ ซึ่งหลายโรคไม่แสดงอาการจนกว่าจะตรวจเจอ โดยหากพบเร็วก็สามารถรักษาได้ทันท่วงทีหรือผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
การที่ผู้หญิงต้องไปตรวจภายในเพื่อตรวจค้นหาและคัดกรองความผิดปกติของโรคทางนรีเวชหากตรวจพบโรคจะได้รับการรักษาได้ทันเวลา ไม่ว่าคุณจะมีอาการผิดปกติหรือไม่มีก็ตาม และยังเป็นการป้องกันการลุกลามของโรคด้วย เพราะบางโรคมักไม่มีอาการแสดงออกมา จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมาตรวจภายใน เช่น ก้อนเนื้องอกที่มดลูก มะเร็งปากมดลูกในระยะแรก
ลักษณะของอาการตกขาวโดยทั่วไปนั้นจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียกหรือเป็นมูกใสๆ มีกลิ่นจางๆ แต่หากเกิดความผิดปกติขึ้นอาจพบว่าตกขาวมีกลิ่นเหม็น จับตัวเป็นก้อน และอาจมีสีที่แปลกไป เช่น สีเขียว, สีชมพู, สีเหลือง หรือหากมีสีน้ำตาลอาจเป็นการบ่งบอกว่าอาจมีเลือดออกในช่องคลอด
บางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย หากพบความผิดปกติดังกล่าวควรเข้ารับการตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุและรักษาต่อไป
อีกสัญญาณเตือนที่บอกคุณอาจต้องไปตรวจภายในหรือตรวจนรีเวช ก็คือการที่มีเลือดออกภายในช่องคลอด ในกรณีนี้ไม่ได้หมายถึงประจำเดือน แต่เป็นเลือดที่ออกมาหลังมีประจำเดือนไปแล้ว หรือหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปากมดลูกอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ หรือเกิดภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก เนื้องอกในมดลูก มีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งปากมดลูก รวมถึงโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งระบบสืบพันธ์
ดังนั้น หากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่ชัด และรับการรักษาอย่างถูกต้อง
หากคุณมีอาการปวดบริเวณท้องน้อยบ่อยๆ ไม่ว่าจะปวดแบบรุนแรงหรือรู้สึกหน่วงๆ ทั้งระหว่างการมีประจำเดือนหรือช่วงเวลาอื่นๆ ให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าอาจมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง ทางที่ดีควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหรือทำการตรวจภายในเอาไว้จะดีกว่า
อีกอาการที่สามารถพบได้บ่อยและอาจเป็นเสียงเตือนจากร่างกายของเราว่ามีบางอย่างผิดปกติก็คือ ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นมาไม่ตรงตามกำหนด มาน้อยหรือมากไป จึงควรสังเกตหรือจดบันทึกเอาไว้หากพบความผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจ อย่าปล่อยไว้นานเพราะอาจลุกลามเป็นโรคร้ายได้
อีกสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในก็คือ มีก้อนเนื้อเกิดขึ้นที่บริเวณท้องน้อย วิธีการตรวจสอบสามารถทำได้โดยการนอนราบลงไป จากนั้นคลำดูว่าพบก้อนเนื้อนูนขึ้นมาหรือไม่ แข็งแค่ไหน มีขนาดเล็กหรือใหญ่ หากพบให้รีบไปพบแพทย์จะเป็นการดีที่สุด
อาการต่อมาที่สังเกตได้ค่อนข้างชัดเจนก็คือการเกิดแผลใกล้กับบริเวณช่องคลอด หรือเกิดตุ่มคล้ายสิวกระจายไปทั่ว มีอาการแสบคันร่วมด้วย โดยเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุทั้งจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, เชื้อแบคทีเรีย, ความผิดปกติของฮอร์โมนเอสโตรเจน และอาจเกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งได้ด้วย
ปัสสาวะของคนเราก็มีส่วนช่วยให้เราเห็นถึงความผิดปกติในร่างกาย โดยในเพศหญิงนั้นหากพบว่ามีอาการปัสสาวะบ่อย หรือปวดแต่ปัสสาวะไม่ออก มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยร่วมด้วย แนะนำว่าควรเข้ารับการตรวจภายในเพราะอาจจะเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูกได้
แม้ตามธรรมชาติช่องคลอดนั้นจะมีกลิ่นอยู่บ้างแต่ถ้าเป็นกลิ่นที่เห็นผิดปกติ ควรต้องรีบหาสาเหตุและทำการแก้ไข โดยอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง จนเกิดการสะสมของเชื้อโรค หรือบางครั้งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคต่างๆ ก็เป็นได้ ยิ่งถ้ามีอาการแสบคันร่วมด้วยยิ่งควรต้องเข้ารับการตรวจภายในทันที
เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้หญิงก็คือ อาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ เจ็บขณะมีการสอดใส่ ซึ่งอาจจะรู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อมีการสอดใส่ หรือจะรู้สึกเจ็บเป็นบางครั้งขณะมีกิจกรรม ในบางรายจะรู้สึกเจ็บลึกๆ เข้าไปในอุงเชิงกรานได้
ส่วนสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น อาการช่องคลอดแห้ง การขาดการเล้าโลมการกระตุ้นก่อนมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดแห้งจากการขาดฮอร์โมนในวัยหมดระดูหรือหลังคลอดใหม่ๆ และช่วงที่กำลังเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
หรือการเจ็บที่ช่องคลอดนั้น อาจเกิดจากการกลัวการมีเพศสัมพันธ์ เช่น เกิดจากประสบการณ์การร่วมเพศที่เจ็บปวดมาก่อน มีความกังวลว่าจะตั้งครรภ์ หรือเคยมีประวัติถูกข่มขืนมาก่อน ซึ่งหากลองสังเกตแล้วไม่ทราบสาเหตุ ควรมาตรวจภายในและปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาต่อไป
"ในขณะที่แพทย์ตรวจภายใน แล้วพบติ่งเนื้อที่ปากมดลูก จะแนะนำให้ตัดออก เพื่อนำไปส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการณ์ว่าเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนมากติ่งเนื้อที่ปากมดลูกจะไม่มีอาการ แพทย์มักจะตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจภายใน และเมื่อมีอาการ ดังกล่าวข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุและการรักษาต่อไป"
การตรวจภายในนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอายหรือน่ากลัวแต่อย่างใด แต่เป็นตัวช่วยที่ทำให้เราทราบถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นเพื่อจะได้รักษาอาการของโรคที่พบได้อย่างเหมาะสม ไม่ลุกลามจนเกิดอันตราย สำหรับท่านที่ต้องการตรวจภายในสามารถเข้ารับบริการได้ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้าน โดยค้นหาจากคลินิกใกล้ฉันใน Google เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือขอทราบเส้นทาง เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเอาไว้คอยให้บริการด้วยมาตรฐานที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
6 พ.ค. 2565
14 มี.ค. 2565
22 มี.ค. 2565
3 พ.ค. 2565