เวลาที่เราไปสัมภาษณ์งานหรือเข้าทำงานที่ใหม่ หลายคนอาจได้รับการแจ้งจากฝ่ายบุคคลว่าจะต้องนำใบรับรองแพทย์ผ่านการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพของคลินิกตรวจสุขภาพสมัครงานแต่ละแห่งก็แตกต่างกันออกไป มีทั้งตรวจสุภาพพื้นฐานทั่วไปราคาหลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงราคาหลักพัน
ทำให้หลายคนสงสัยว่า งานที่เราเข้าไปทำก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสุขภาพที่ต้องตรวจสักเท่าไหร่ แล้วมีความจำเป็นอะไร ทำไมบริษัทจึงกำหนดให้ไปตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน วันนี้เราจึงมาไขข้อสงสัย ว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน
การตรวจสุขภาพสมัครงาน เป็นการเช็คสภาพร่างกายของผู้เข้าทำงานให้มั่นใจว่าพร้อมที่จะเริ่มงานกับทางบริษัท ในขณะที่บางบริษัทใช้เป็นการประเมินสุขภาพเบื้องต้นของผู้สมัครงาน อย่างเช่น ผู้ที่ทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมัน หรือผู้ที่ทำงานบนเรือ ซึ่งการตรวจสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นมาก ด้วยข้อจำกัดของสถานที่ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งค่อนข้างมาก
หากร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงอาจเกิดสภาวะฉุกเฉินที่เป็นอันตรายได้โดยไม่รู้ตัว หรือหากเกิดโรคติดต่อจะเกิดการระบาดขึ้นในพื้นที่ที่จำกัดได้ง่าย ทำให้ต้องมีการตรวจสุขภาพของผู้สมัครงานเพื่อช่วยในการประเมินและเฝ้าระวังสุขภาพของพนักงานในองค์กร เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและเพื่อนร่วมงาน
ตามกฎหมายแล้ว ไม่มีข้อกำหนดของกฎหมายแรงงานและสาธารณสุขใด ที่บังคับให้ผู้สมัครงานส่งผลการตรวจร่างกายให้กับบริษัทก่อนเข้าทำงาน ยกเว้นตำแหน่งงานนั้นมีสภาพแวดล้อมที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือเกี่ยวข้องกับอันตราย ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรทำงานในสถานที่ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อหัวใจ
เช่น การทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอันตราย อย่างเช่น เชื้อโรค, สารเคมี, สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นที่อันตรายต่อปอด, สภาพแวดล้อมที่อาจเกิดเสียงดังที่ทำให้เสี่ยงต่อการตกใจจนทำให้โรคหัวใจกำเริบ ซึ่งกฎหมายได้มีข้อบังคับนี้กำหนดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างหรือพนักงานของบริษัทเข้าไปเสี่ยงอันตรายโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้บังคับให้ต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน แต่ใช่ว่าบริษัทจะไม่สามารถกำหนดให้ผู้สมัครงานเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ แม้ว่าบริษัทที่เรากำลังจะเข้าทำงานไม่ได้อยู่ในข้อกฎหมายที่บังคับไว้ ซึ่งเราสามารถปฏิเสธการไม่เข้ารับการตรวจสุขภาพได้ก็จริง
แต่นั่นก็หมายความว่า บริษัทมีสิทธิ์ปฏิเสธการรับเข้าทำงานโดยไม่ผิดกฎหมายได้เช่นกัน เพราะกระบวนการสมัครงานยังไม่สิ้นสุดลงตามเกณฑ์ของบริษัท ถ้าหากบริษัทมีความต้องการให้ผู้สมัครงานเข้ารับการตรวจสุขภาพแสดงว่าต้องมีเหตุผลและความจำเป็นอย่างแน่นอน
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานที่คลินิกตรวจสุขภาพสมัครงานหรือโรงพยาบาล ส่วนใหญ่จะมีรายการตรวจดังนี้
แพทย์จะทำการซักประวัติเพื่อคัดกรองข้อมูลเบื้องต้น อาทิ ตรวจวัดความดันโลหิต, ตรวจชีพจร, ตรวจภาวะโรคอ้วน, ตรวจโรคหัวใจ เป็นต้น
ในบางบริษัทจะมีการระบุจำเป็นต้องใช้ ใบรับรองแพทย์ 5 โรค จากคลินิกตรวจสุขภาพสมัครงานหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ซึ่ง 5 โรคที่ส่งผลต่อการทำงานได้แก่ วัณโรคในระยะแพร่เชื้อ, โรคเท้าช้าง, โรคที่เกิดจากสารเสพติด, โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคเรื้อรังหรือร้ายแรงอื่น ๆ ที่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจนจนกลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน เพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา
ในปัจจุบันนิยมตรวจวัดสายตาโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบปัญหาสายตา โดยเฉพาะ การตรวจตาบอดสี (Color Blind Test) ซึ่งมีผลต่อการทำงานบางประเภทที่ต้องใช้สายตาในการแยกแยะสี
เป็นการตรวจเลือดโดยใช้ห้องปฏิบัติการ (LAB) เพื่อตรวจดูความสมบูรณ์โดยรวมของร่างกาย โดยดูจาก ความเข้มข้นของเลือด ตรวจวัดระดับคอเลสเตอรอล วัดระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจหาความผิดปกติของเม็ดเลือด ค่าฮอร์โมนต่างๆ คัดกรองภาวะโลหิตจาง ค่าไต หรือความผิดปกติอื่นๆ
การตรวจหาสารเสพติด เพื่อสมัครงาน มักทำควบคู่กับการตรวจปัสสาวะ เพราะเราสามารถใช้ปัสสาวะในการตรวจหาสารเสพติดได้เลย โดยการตรวจปัสสาวะจะตรวจหาแนวโน้มของโรคไต โรคเบาหวาน หรือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ส่วนการตรวจหาสารเสพติดจะตรวจหาสารบ่งชี้ในร่างกาย เช่น สารแอมเฟตามีน (Amphetamine) และสารเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) เป็นต้น
เป็นการตรวจเอกซเรย์เพื่อดูช่วงทรวงอก ปอดและหัวใจ ตรวจหาอาการติดเชื้อและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในช่องปอดหรือหัวใจ ดูระบบหลอดเลือดหัวใจ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องตรวจการตั้งครรภ์ก่อนสมัครงานหรือก่อนเข้าทำงาน นั่นเป็นเพราะบางงานที่มีลักษณะหรือความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการแท้ง รวมถึงอาการแพ้ท้องในแต่ละคนที่แตกต่างกัน ซึ่งควรให้บริษัทและเพื่อนร่วมงานรับทราบเพื่อที่จะได้ระมัดระวังให้มากขึ้น
ไวรัสตับอักเสบบีเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับเกิดการอักเสบและยังทำลายเซลล์ตับจนทำให้เกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับ การตรวจหาเชื้อไวรัสในกระแสเลือดหากพบ HBsAg หรือ แอนติเจนไวรัสตับอักเสบบี แสดงว่า มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ในร่างกาย ไวรัสตับอักเสบบีเป็นโรคติดต่อที่ติดค่อนข้างยาก เพราะติดต่อผ่านทางเลือดหรือสารคัดหลั่งผ่านเข้าทางบาดแผล, การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น กรรไกรตัดเล็บ, แปรงสีฟัน, ที่โกนหนวด ฯลฯ แต่ไม่ติดต่อกันผ่านลมหายใจ การทานอาหารหรือดื่มน้ำร่วมกัน
เอดส์ หรือ HIV ไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงที่ติดต่อได้ง่ายเพราะการแพร่เชื้อจะต้องผ่านทางเลือดและสารคัดหลั่งเท่านั้น แต่การที่บริษัทบังคับให้ยื่นเอกสารหรือขอดูผลการตรวจนั้น เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของผู้สมัครมากเกินไป
หากผู้สมัครงานคิดว่าไม่เหมาะสมหรือมีความจำเป็นมากพอที่จะต้องยื่นผลการตรวจหาเชื้อเอดส์ หรือ HIV ก็สามารถปฏิเสธได้ เพราะถ้าหากว่าบริษัทไม่สามารถรับผู้ที่ติดเชื้อ HIV เข้าทำงานได้ก็จะมีการแจ้งอย่าชัดเจนอย่างแน่นอน
ในแต่ละบริษัทจะมีรายการตรวจแตกต่างกันไป แนะนำให้สอบถามและตรวจสอบรายการที่ทางบริษัทต้องการให้ตรวจ และสอบถามกับทางคลินิกตรวจสุขภาพสมัครงาน จะช่วยให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
โดยทั่วไปแล้วการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน แม้จะไม่มีข้อกำหนดของกฎหมายแรงงานและสาธารณสุขแต่หลายบริษัทก็มีข้อกำหนดให้มีการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน โดยคลินิกตรวจสุขภาพสมัครงานหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพราะเพราะสุขภาพที่ดีของพนักงานย่อมส่งผลถึงประสิทธิภาพในการทำงาน และปลอดภัยของเพื่อร่วมงาน
ซึ่งเป็นผลดีโดยตรงต่อบริษัททั้งในเรื่องของการบริหารจัดการและภาพลักษณ์แล้ว และยังส่งผลดีต่อผู้สมัครงานที่จะได้รับรู้ถึงปัญหาสุขภาพและความเสี่ยงของตนเอง ช่วยให้ทำงานอย่างมีความสุข มี Work-Life Balance ที่ดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
@qns9056c
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม