คำถามโรคเริมเป็นเรื่องที่ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายถามเข้ามาเยอะมาก อาจเป็นเพราะความกังวลใจหรือสงสัยว่าอาการที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่จะเกี่ยวกับโรคเริมหรือไม่ ในบทความนี้เรามีคำตอบโรคเริมมาฝากค่ะ ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตที่ทุกคนอยากรู้ ไปดูกันเลย
คำถามโรคเริม - คำตอบโรคเริม
คำตอบ : เริมที่ปากเกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อ Herpes simplex virus สามารถติดต่อโดยการสัมผัสโดยตรง เช่น การรับประทานอาหารร่วมกันโดยใช้ช้อนหรือแก้วน้ำเดียวกัน การใช้ของร่วมกัน การจูบปากและการมี Oral sex
คำตอบ : เป็นเริมกี่วันถึงจะหาย โดยทั่วไปผื่นจะยุบตัวลงได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากที่มีอาการ การใช้ยารักษาโรคเริมโดยเฉพาะจะช่วยทำให้ผื่นหายเร็วขึ้นได้
คำตอบ : เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถแพร่เชื้อได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ปากมดลูกอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ในกรณีของผู้ที่ตั้งครรภ์อาจแพร่เชื้อไปยังทารกและอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ 
คำตอบ : ตำแหน่งที่คนมักเป็นเริมบ่อยๆ ส่วนมากมี 2 ตำแหน่ง ได้แก่ ปากและอวัยวะเพศ ซึ่งการติดเชื้อทั้งสองตำแหน่งยังสามารถนำไปสู่การติดเชื้อบริเวณอื่นได้ เช่น ที่จมูก ตา ในลำคอ
คำตอบ : การติดเชื้อเริมอาจทำให้เพิ่มความเสียงต่อการติดเชื้อไวรัส HIV เนื่องจากภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคบกพร่องทำให้สามารถรับเชื้ออื่นได้โดยง่าย
|
คำตอบ : อาหารแปรรูป น้ำตาลและของหวานทุกชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ ของหมักดอง มีส่วนเป็นตัวกระตุ้นให้โรคเริมกำเริบ ดังนั้นคนที่เป็นเริมบ่อยมาก โดยเฉพาะเริมที่อวัยเพศหญิง ควรงดค่ะ
คำตอบ : แพทย์จะจ่ายยาต้านไวรัส ช่วยเร่งการฟื้นฟูผิวหนังแผลจากเริม บรรเทาความรู้สึกเจ็บปวด คัน หรือแสบ เช่น อะไซโคลเวียร์ครีม (Acyclovir)
หมายเหตุ : แนะนำให้มาพบแพทย์ดีกว่าซื้อยาใช้เอง เพื่อความปลอดภัยและการรักษาที่ถูกวิธี
ผู้ป่วยหลายคนมักไปซื้อยามาทาเองแล้วไม่หายเพราะร้านขายยาจ่ายยาสเตียรอยด์ให้ ซึ่งปกติโรคเริมห้ามทายาสเตียรอยด์เพราะจะทำให้แผลลุกลามและไม่หาย หมอแนะนำให้มาตรวจที่คลินิกจะดีกว่าค่ะ
- แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล คำแนะนำของแพทย์ -
คำถามและคำตอบโรคเริมของบทความนี้อาจตอบปัญหาคาใจและข้อสงสัยได้บ้างในบางส่วน แต่หากต้องการปรึกษาหรือคำแนะนำที่ตรงตามอาการที่คุณเป็นอยู่ ขอแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่คลินิกนรีเวช คลินิกเวชกรรมทั่วไปก็ได้ หรือสถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว
เนื่องจากเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นไม่ควรละเลยที่จะทำการรักษาให้หายก่อนโรคจะลุกลามนะคะ 
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล
แก้ไขล่าสุด : 14/11/2024
อนุญาติให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com
